ข้อควรคำนึงในการเลือก หลังคากันสาด ให้เหมาะกับบ้านเมืองไทย

ประเทศไทย เป็นประเทศที่ต้องเผชิญกับความร้อน และพายุฝนฟ้าคะนองตลอดทั้งปี ทำให้ปัญหาที่ตามมาคงหนีไม่พ้นในเรื่องของอุณหภูมิความร้อน และการรั่วซึมของน้ำฝน ที่ส่งผลกระทบกับบ้านของเราโดยตรง ทำให้บ้านเสื่อมสภาพ เสื่อมโทรม และชำรุดก่อนเวลาอันควร ซึ่งนั่นทำให้หลาย ๆ คนมองหาตัวช่วยที่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้

โดยสิ่งนั้นก็คือการติดตั้ง หรือต่อเติม หลังคากันสาด เพื่อช่วยป้องกันบ้านจากความร้อน แสงแดด และพายุลมฝนแต่ด้วยความที่ประเทศไทยมีสภาพอากาศที่ไม่คงที่ และมีสภาพอากาศที่แปรปรวนอยู่ตลอดเวลา ทำให้การติดตั้ง หลังคากันสาด จำเป็นจะต้องเลือกหลังคากันสาดให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ และดีไซน์ของบ้านในเมืองไทยมากที่สุด

เพราะถ้าหากติดตั้งหลังคากันสาดผิดพลาด กันสาดก็อาจจะไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหา หรือป้องกันแสงแดด และลมฝนได้ เพราะฉะนั้น หากจะติดตั้ง หลังคากันสาด ให้เหมาะกับบ้านในเมืองไทย ห้ามพลาดกับข้อควรคำนึงที่ Kansad Center นำมาฝากกันในวันนี้

4 ข้อควรคำนึงก่อนเลือก หลังคากันสาด

ด้วยความที่ในปัจจุบัน ดีไซน์ หรือสไตล์ของบ้าน มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น บ้านสไตล์โมเดิร์น บ้านสไตล์มินิมอล บ้านสไตล์ลอฟท์ หรือบ้านสไตล์ Luxury ซึ่งบ้านแต่ละสไตล์ก็มีเอกลักษณ์ และความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับใครที่อยากต่อเติม ติดตั้งหลังคากันสาด เพื่อช่วยปกป้องบ้านจากแสงแดด ความร้อน รังสี UV และลมฝน แนะนำให้เลือกจาก 4 ข้อควรคำนึง ดังนี้

1. เลือกจากการรับน้ำหนัก

สำหรับการติดตั้งกันสาดให้เหมาะกับบ้าน นอกจากจะเลือกให้เหมาะกับดีไซน์ของบ้าน ก็อย่าลืมคำนึงในเรื่องน้ำหนักของกันสาดด้วย เพราะหากไม่คำนึงในเรื่องนี้อาจเกิดปัญหากับโครงสร้างของตัวบ้านได้ในภายหลัง

เนื่องจากบ้านบางแบบไม่ได้มีการเตรียมโครงสร้างบ้านไว้สำหรับการรองรับกันสาดที่มีน้ำหนักมาก ดังนั้น ในการเลือกกันสาดที่เหมาะสมกับบ้าน ควรปรึกษากับช่างผู้เชี่ยวชาญก่อนว่าจะเลือกใช้งานแบบไหนดี ซึ่งกันสาดนั้นจะมีลักษณะการใช้งานให้เลือกทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน คือ

กันสาดใช้งานแบบถาวร

กันสาดที่มีอายุการใช้งานยาวนาน และคงทนมากเป็นพิเศษ แต่สำหรับกันสาดใช้งานแบบถาวรส่วนใหญ่แล้วจะมีน้ำหนักที่มากกว่า เพราะกันสาดแบบถาวรจะต้องติดตั้งกับตัวบ้านไปตลอด ไม่สามารถรื้อถอน หรือซ่อมแซมได้ง่าย ดังนั้น รูปแบบการติดตั้งจึงต้องมีความแน่นหนาเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักของกันสาดได้นั่นเอง

กันสาดแบบใช้งานชั่วคราว

ส่วนกันสาดแบบใช้งานชั่วคราว จะเป็นลักษณะของกันสาดที่ไม่ได้มีอายุการใช้งานที่นานมากนัก ซึ่งนั่นทำให้ไม่ต้องต่อเติม หรือติดตั้งแบบถาวร สามารถรื้อถอนเมื่อไหร่ก็ได้ และที่สำคัญไม่ต้องรองรับน้ำหนักเยอะเหมือนการติดตั้งกันสาดแบบถาวร

2. เลือกรูปแบบลักษณะการติดตั้งให้ตอบโจทย์

การติดตั้งกันสาด ไม่ใช่ว่าจะติดตั้งได้ตามใจชอบ เพราะการติดตั้งกันสาดจะต้องคำนึงถึงทิศทางของแสงแดด หรือลมฝนด้วย เพื่อให้กันสาดสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งรูปแบบลักษณะของการติดตั้งกันสาดจะมีทั้งหมด 3 แบบที่นิยม

ติดตั้งกันสาดแนวดิ่ง

จะสามารถบดบังแสงจากธรรมชาติในช่วงเวลาเช้า-เย็นได้เป็นอย่างดี แต่การติดตั้งในลักษณะนี้อาจจะไม่สามารถบังแสงจากธรรมชาติได้ตลอดทั้งวัน แนะนำให้ออกแบบกันสาดทำมุมอยู่ที่ 30 องศา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแสงจากธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

ติดตั้งกันสาดแนวราบ

จะเป็นการติดตั้งแบบมีเสา และไม่มีเสาก็ได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เหล็กมาทำเป็นโครงสร้าง เพื่อคอยยึดกันสาดกับบ้านเข้าด้วยกัน โดยการติดตั้งกันสาดแบบแนวราบจะเหมาะสำหรับการติดตั้ง เพื่อบดบังแสงจากธรรมชาติที่เข้ามาทางทิศเหนือ และทิศใต้มาก เพราะจะสามารถป้องกันแสงที่ตกกระทบได้ตลอดทั้งวัน

ติดตั้งกันสาดแบบผสม

ส่วนการติดตั้งกันสาดแบบผสม จะเป็นการรวมรูปแบบการติดตั้งกันสาดแนวดิ่ง และแนวราบเข้าด้วยกัน ซึ่งจะสามารถป้องกันแสงจากธรรมชาติ และลมฝนได้ตลอดทั้งวัน โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าแสงแดด หรือลมฝนจะสาดกระเซ็นเข้ามาสู่ภายในบ้าน

3. เลือกโครง หลังคากันสาด ที่ตอบโจทย์กับบ้าน

นอกจากเรื่องของน้ำหนัก และรูปแบบที่ควรเลือกให้เหมาะสมแล้ว โครงสร้างของหลังคากันสาดก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญ ที่จะทำให้หลังคากันสาดเหมาะกับสไตล์ของบ้านได้ และแน่นอนว่าโครงสร้างของหลังคากันสาดก็มีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน

โครงสร้างเหล็ก

เป็นโครงสร้างที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากสามารถติดตั้งได้หลากหลายรูปแบบ มีความแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน และสามารถรองรับน้ำหนักได้ดี

โครงสร้างจากไม้

สำหรับโครงสร้างจากไม้ ก็มีให้เลือกทั้งไม้จริง และไม้เทียม ซึ่งไม่ทั้งสองชนิดก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป อย่าง ไม้จริงก็จะมีความแข็งแรง ทนทาน และสวยหรูกว่าไม้เทียม แต่แม้เทียมก็มีราคาที่ย่อมเยากว่าไม้จริง

4. เลือกวัสดุที่มีคุณภาพให้เหมาะสมกับบ้าน

ข้อควรสุดท้ายที่ควรคำนึง และควรให้ความสำคัญอย่างมากเลยก็คือ การเลือกวัสดุที่มีคุณภาพ มีความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน และอัดแน่นไปด้วยประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งปัจจุบันวัสดุที่นิยมใช้ทำหลังคากันสาดก็มีให้เลือกใช้หลากหลายประเภทด้วยกัน แต่เราจะขอยกวัสดุที่เป็นที่นิยมใช้งานมากที่สุด ดังนี้

หลังคากันสาดไฟเบอร์กลาส

หลังคากันสาดที่มีความโปร่งแสง สามารถให้แสงส่องผ่านถึงทั่วทุกบริเวณที่ต้องการ ซึ่งหลังคากันสาดไฟเบอร์กลาสผลิตมาจากเรซินผสานด้วยเส้นใยไฟเบอร์กลาส ที่มีความยืดหยุ่น มีความเหนียวแน่น ทำให้วัสดุมีความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งานมากที่สุด ไม่แตกหักง่าย แถมยังทนทานต่อความร้อนสูงได้อีกด้วย

นอกจากนี้ กันสาดไฟเบอร์กลาสยังเป็นวัสดุที่สามารถป้องกันความร้อน ป้องกันแสงแดด และป้องกันรังสี UV ได้มากถึง 99% อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาการรั่วซึม และคราบตะไคร่ฝั่งลึกบนกันสาดได้ดีมากอีกด้วย ปัจจุบันหลังคาไฟเบอร์กลาส ได้พัฒนากันสาดทึบแสง ป้องกันแสงแดด ความร้อนได้ 100 % กับแบรนด์กันสาดดีไลท์ เพื่อให้คุณเจ้าของบ้านได้เลือกใช้ตรงตามความต้องการที่หลากหลายได้อย่างลงตัวมากยิ่งขึ้น

หลังคา กันสาดเมทัลชีท

ส่วนหลังคา กันสาดเมทัลชีท เป็นวัสดุที่ผลิตมาจากเหล็ก โลหะ สังกะสี และอลูมิเนียม นำมาเคลือบด้วยสารป้องกันสนิม ทำให้วัสดุมีความแข็งแรงทนทาน ไม่แตกหักง่าย ทั้งยังสามารถช่วยป้องกันแสงแดด และป้องกันการรั่วซึมได้ดี

แต่หลังคากันสาดเมทัลชีทมีข้อจำกัดอยู่อย่างหนึ่งคือ ไม่สามารถป้องกันความร้อนได้ดีเท่ากับหลังคากันสาดไฟเบอร์กลาส ทำให้บริเวณที่ติดตั้งมีความร้อนอบอ้าว อากาศถ่ายเทไม่สะดวก และที่สำคัญเสียงดังเวลาฝนตก

หลังคากันสาดไวนิล

ส่วนหลังคากันสาดไวนิลผลิตมาจาก UPVC เป็นหลังคาทึบแสง ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อสภาวะอากาศทุกสภาพ ไม่ลามไฟง่าย สามารถป้องกันความร้อนได้ดี และช่วยลดเสียงดังรบกวนเวลาฝนตก แต่ข้อเสียคือมีอายุการใช้งานที่ไม่นาน เมื่อใช้ไปนาน ๆ จะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของวัสดุ

หลังคากันสาดโพลีคาร์บอเนต

สำหรับหลังคากันสาดโพลีคาร์บอเนต จะผลิตมาจากเม็ดพลาสติกชนิดหนึ่งที่นำไปขึ้นรูปให้มีลักษณะเหมือนกับกระจก แต่มีความแข็งแรงมากกว่ากระจกทั่วไป ซึ่งคุณสมบัติเด่น ๆ ของหลังคากันสาดโพลีคาร์บอเนต คือ มีความโปร่งแสง สามารถให้แสงส่องผ่านมาถึงได้ มีความแข็งแรงทนทาน ป้องกันแสงแดด และการรั่วซึมได้เป็นอย่างดี

แต่กันสาดโพลีคาร์บอเนตจะไม่สามารถป้องกันความร้อนได้ดีเท่ากันสาดไฟเบอร์กลาส ทำให้ภายในบ้านร้อนอบอ้าว ทั้งยังมีอายุการใช้งานที่น้อยกว่ากันสาดทั่วไป แถมยังเกิดตะไคร้ คราบฝั่งลึกบนวัสดุได้อีกด้วย

และทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็คือ ข้อควรคำนึงในการเลือก หลังคากันสาด ให้เหมาะกับบ้าน เพื่อให้กันสาดสามารถช่วยป้องกันบ้านจากสภาพอากาศที่แปรปรวนอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังติดตั้งเพื่อให้กันสาดสามารถเป็นไอเทมส่วนหนึ่งที่เพิ่มความสวยงามให้กับบ้านได้อีกด้วย ซึ่งหากใครที่กำลังมองหากันสาดคุณภาพดี หรือต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับกันสาด ก็สามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line: @kansadcenter หรือโทร 02-312-4300, 02-103-4490, 089-766-9055